หลายๆคนสงสัยว่าเกณฑ์การให้ดาวแต่ละ โรงแรมมีมาตรฐานอย่างไร ทำไมถึงโรงแรมนั้นถึง 3ดาว โรงแรมนู้น 5 ดาว โรงแรมนี้ 2 ดาว ซึ่งมาตรฐาน การแบ่งระดับดาวนั้นมีกำหนดไว้อย่างชัดเจนซึ่งถ้าเป็นที่เมืองไทย จะเป็นคนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถให้ระดับดาวโรงแรมได้และสมาคมโรงแรมไทยสุดท้าย คือสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) แล้วนำคะแนนทั้งหมดจากทั้งสามหน่วยงานมารวมกันแล้วหารออกเป็นคะแนนระดับของ ดาวที่จะมอบให้กับทางโรงแรม ซึ่งทั้งสามหน่วยงานนี้แหละ เป็น หน่วยงานที่รับรองมาตรฐานระดับดาวของโรงแรมทั้งหมดในเมืองไทย โรงแรม 1 ดาว เป็นโรงแรมที่มีห้องพักในราคาถูกมากๆ ซึ่ง อาจจะพักรวมกันหรือใช้ห้องน้ำรวม ไม่มีบริการอาหาร หรือไม่มีบริการทำความสะอาดประจำวัน ห้องนอนมีขนาดกว้างประมาณ 10 ตารางเมตร เตียงนอนมีขนาดไม่ต่ำกว่า 3 ฟุต พร้อมด้วยกระจกแต่งหน้า ตู้เสื้อผ้า คนไทยส่วนใหญ่จะเรียกว่าโรงแรมจิ้งหรีด โรงแรม 2 ดาว (จะเป็นโมเต็ลซะเป็นส่วนใหญ่คือโรงแรมต่างจังหวัดตามรายทาง)เป็นโรงแรมที่ เช่นเดียวกับโรงแรม 1 ดาว ที่มีการบริการและสิ่งของพร้อมอำนวยความสะดวก เพื่อให้เหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการ ไม่เน้นความหรูหรา ขนาดห้องพักไม่เล็กกว่า 14 ตารางเมตร เตียงนอนมีขนาดไม่ต่ำกว่า 3 ฟุต เช่นเดียวกับโรงแรม 1 ดาว พร้อมกับกระจกแต่งหน้า ตู้เย็นพร้อมน้ำดื่ม โทรทัศน์ขนาดอย่างน้อย 14 นิ้ว ห้องน้ำแบบชักโครก มีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระ โรงแรม 3 ดาว (ส่วนใหญ่คนไทยจะเรียกโรงแรมทั่วไป)โดยโรงแรม 3 ดาวนั้นจะมีการบริการที่เป็นมาตรฐานที่สูงขึ้นมาจากโรงแรม 2 ดาวเพียงเล็กน้อย เช่น ห้องพักมีขนาดไม่ต่ำกว่า 18 ตารางเมตร มีตาแมว โซ่คล้องประตู เตียงขนาด 3 ฟุต ตู้เสื้อผ้า ไฟหัวเตียง เครื่องเขียน กระจกแต่งหน้า ตู้เย็นและน้ำดื่ม โทรทัศน์ขนาดอย่างน้อย 14 นิ้วขึ้นไป โทรศัพท์ติดต่อภายใน ห้องน้ำชักโครกมีการบริการเสริมอื่นๆ เช่น รูมเซอร์วิส ห้องอาหาร ห้องประชุม ราคาจะไม่ต่างจากโรงแรม 2 ดาวมากนัก โรงแรม 4 ดาว นั้นแทบจะเป็นโรงแรมที่เพียบพร้อมมีเกือบทุกสิ่งทุกอย่างซึ่งโรงแรมระดับนี้ อยู่ในเกณฑ์ระดับดีถึงดีมาก มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการมากกว่าโรงแรม 3 ดาวทั่วไป ห้องพักกว้างไม่ต่ำกว่า 24 ตารางเมตรมีเตียงขนาดใหญ่ตั้งแต่ 3.5 ฟุต ขึ้นไป โทรทัศน์ขนาดต่ำที่สุดคือ 20 นิ้วพร้อมทั้งมีมีรายการจากโทรทัศน์ให้ชมอย่างน้อย 10 ช่องรายการ รวมถึงตู้เย็นพร้อมกับมินิบาร์ โทรศัพท์ที่สามารถโทรทางไกลต่างประเทศได้โดยตรง ห้องน้ำมีเครื่องใช้ครบถ้วน ราคาโรงแรมจะอยู่ในราคาที่ค่อนข้างสูง และสุดท้าย โรงแรม 5 ดาว เป็นโรงแรมที่มีความพร้อมในทุกๆเรื่อง ทั้งในด้านทำเลที่ตั้ง ขนาดของห้องพัก สิ่งอำนวยความสะดวก การบริการที่เป็นเลิศที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น ห้องพักกว้างไม่น้อยกว่า 30 ตารางเมตร พร้อมเตียงขนาดอย่างน้อย 4 ฟุต โดยต้องมีโทรทัศน์ขนาด 20-25 นิ้วขึ้นไปพร้อมกับมีรายการอย่างน้อย 12 ช่องรายการ ตู้เย็นพร้อมมินิบาร์ และอุปกรณ์การติดต่อสื่อสารที่ครบครัน ห้องน้ำขนาดใหญ่ สุขภัณฑ์มีความสะอาดและสวยงาม เครื่องใช้ครบถ้วนห้องอบไอน้ำ อ่างจากุซซี่ ห้องนวด สระว่ายน้ำ ห้องประชุมใหญ่ อุปกรณ์ครบ ราคาโรงแรมในระดับ 5 ดาวนั้นจะราคาสูงมาก สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นการวัดระดับมาตรฐานเพียงคร่าวๆเท่านั้นซึ่งการจำแนก จริงๆของการวัดระดับดาวนั้น มีอยู่ประมาณ 400 ข้อแต่เพียงที่กล่าวมาข้างต้นก็สามารถทำให้เข้าใจได้ว่าระดับดาวนั้นจำแนก ได้ด้วยวิธีการใด ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกที่พักขึ้นอยู่กับตัวลูกค้า ดาวเป็นเพียงตัวช่วยให้ลูกค้าเลือกได้ง่ายขึ้นเท่านั้นเอง